จับได้แล้ว “หนุ่มปากีสถาน” หลอกใช้ธนบัตรปลอมตุ๋นร้านค้าในภาคเหนือ หลัง “ตม.จว.เพชรบูรณ์-อุตรดิตถ์-กก.สส.บก.ตม.1”ประสานข้อมูล เฝ้าติดตามเป้าหมาย ก่อนโดน กก.สส.บก.ตม.1 ตะครุบคาศูนย์ราชการฯแจ้งวัฒนะ
วันนี้ (19 ม.ค.63) พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม.ในฐานะโฆษก สตม.กล่าวเปิดเผยว่า พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย , พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ชำนาญ ชำนาญเวช ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 (ผบก.ตม.5) , พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 และ พ.ต.ต.ภูวดล ภูมี สว.ตม.จว.เพชรบูรณ์ แถลงผลการจับกุมนายมูฮัมหมัด อามิน อายุ 31 ปี สัญชาติปากีสถาน
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากได้เกิดเหตุคนต่างด้าวก่อเกตุฉ้อโกงร้านค้าในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ จำนวน 2 แห่ง โดยทางร้านค้าผู้เสียหายได้มีการเผยแพร่ภาพกล้องวงจรปิดขณะที่คนต่างด้าวก่อเหตุ ซึ่งมีพฤติการณ์นำธนบัตรปลอมใบละ 1,000 บาท ทำทีซื้อสินค้าแล้วขอเงินคืน พร้อมทั้งพูดภาษาต่างประเทศวกวน จนพนักงานคิดเงินสับสน จากนั้นวันที่ 13 ม.ค.63 ทาง ตม.จว.เพชรบูรณ์ ได้มีการโพสต์แจ้งเตือนประชาชนในสื่อโซเชียล เกี่ยวกับพฤติการณ์คนต่างด้าวดังกล่าวทันที พร้อมประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในหลายพื้นที่ และได้รับข้อมูลใบหน้าพร้อมหนังสือเดินทางจากเจ้าหน้าที่ ตม.จว.อุตรดิตถ์ ซึ่งได้มีการก่อเหตุในพื้นที่ดังกล่าวมาแล้วและได้ทำการเก็บประวัติไว้
ตม.จว.เพชรบูรณ์ ได้พิจารณาแล้วว่าพฤติการณ์คนต่างด้าวดังกล่าวเป็นภัยต่อสังคม และมีความเป็นไปได้ที่ผู้ก่อเหตุจะติดต่อกับตรวจคนเข้าเมืองสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง หรืออกนอกประเทศ จึงได้แนะนำผู้เสียหายไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ ซึ่งข้อมูลหมายจับดังกล่าวจะโอนเข้าสู่ระบบไบโอ เมทริกซ์(Biometrics) ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ต่อมาวันที่ 17 มกราคม 2563 พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ รวบรวมพยานหลักฐานจนแน่ชัด จึงขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ 9/2563 ลงวันที่ 17 มกราคม 2563 ข้อหา “โดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม”
ต่อมาหลังจากที่ได้รับหมายจับแล้ว ตม.จว.เพชรบูรณ์ ได้ร้องขอให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ นำข้อมูลหมายจับเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเร่งด่วน เพื่อจะได้โอนข้อมูลดังกล่าวเข้าสู่ระบบไบโอเมทริกซ์ ซึ่งจะทำให้สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งประสานไปยัง ตม หลายแห่ง รวมถึงกองกับกำการสืบสวน บก.ตม.1
กระทั่งเวลา 13.30 น.วันที่ 17 มกราคม 2563 เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.1 พบบุคคลมีลักษณะตรงกันกับหมายจับของศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ อยู่ภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ จึงได้ประสานมายังเจ้าหน้าที่ ตม.เพชรบูรณ์ เพื่อตรวจสอบจนกระทั่งแน่ชัดว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับหมายจับ จึงได้ทำการบูรณาการจับกุมบุคคลต่างด้าวตามหมายจับดังกล่าวร่วมกัน และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการตรวจสอบพบว่านายมูฮัมหมัด อามิน เคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันในพื้นที่ จ.จันทบุรี , เพชรบูรณ์ , พิษณุโลก , อุตรดิตถ์ , ขอนแก่น และ กทม. เบื้องต้นคุมตัวนายมูฮัมหมัด อามิน ไว้ดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง และจากการตรวจสอบยังพบว่านายมูฮัมหมัด อามิน ยัง “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” หรือโอเวอร์สเตย์ จำนวน 1 วันด้วย โดยหลังจากที่คดีสิ้นสุดแล้ว ทาง ตม.จะเก็บลายพิมพ์นิ้วมือเข้าสู่ระบบไบโอเมทริกซ์ พร้อมผลักดันออกนอกราชอาณาจักร และขึ้นบัญชีเป็นบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศไทย เนื่องจากมีพฤติการ์เป็นภัยสังคมต่อไปด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1 และรองโฆษก สตม.กล่าวว่า สตม.มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปราม การอาชญากรรมตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และกฎหมายที่มีโทษทางอาญาเกี่ยวข้อง และให้บริการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ
ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายังตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ดังกล่าว หรือที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่ใกล้ที่สุดของที่เกิดเหตุ หรือที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th