นักวิจัยไทยพัฒนาชุดตรวจโควิด-19 ประสิทธิภาพสูง ต้นทุนถูก
ใช้เวลาตรวจ 30-45 นาที
เร่งทดสอบความแม่นยำก่อนขยายผล
วันนี้ (17 มีนาคม) ศ.ดร.จำรัส ลิ้มตระกูล อธิการบดีสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) พร้อมด้วย ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล และ ชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงข่าวสืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทั่วโลกในขณะนี้ ที่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะคลี่คลายในเร็ววัน
สถาบันวิทยสิริเมธีจึงได้ใช้ศักยภาพและองค์ความรู้ของบุคลากรสถาบันฯ เร่งพัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยโควิด-19 โดยความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีจากสถาบัน Broad Institute, Massachusetts Institute of Technology and Harvard, USA และความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และโรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี ในการวิจัยเพื่อพัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้สามารถตรวจโรคได้ภายใน 30-45 นาที ซึ่งรวดเร็วกว่าวิธีการตรวจในปัจจุบันที่ใช้เวลา 4-6 ชั่วโมงในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์
โดยจะทำให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย จนนำไปสู่การควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งคาดว่าจะผลิตได้จำนวน 4,000 ชิ้นต่อวัน ใช้ต้นทุนในการผลิตชุดละประมาณ 450-500 บาท โดยขณะนี้มีการทดสอบใช้จริงในโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลเครือข่ายแล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างการทดสอบและพัฒนาความแม่นยำเพิ่มเติม ก่อนจะขยายผลเพื่อใช้ในโรงพยาบาลอื่นๆ ต่อไป ทั้งนี้ การสนับสนุนงบประมาณการวิจัยมาจากกลุ่ม ปตท. และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
โดย ผศ.ดร.ชยสิทธิ์ อุตมาภินันท์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมชีวโมเลกุล (Biomolecular Science and Engineering: BSE) สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) กล่าวว่า สถาบันฯ ร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ภาควิชาจุลชีววิทยา เริ่มทดลองกับตัวอย่างจากคลินิกแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมแผนผลิตชุดทดสอบเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการในขั้นตอน Clinical Trial ในเดือนเมษายนนี้
ทางด้าน ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร นายกสภาสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) กล่าวว่า “สถาบันฯ ขอขอบคุณกลุ่ม ปตท. และธนาคารไทยพาณิชย์ ผู้สนับสนุนงบประมาณ รวมทั้งโครงการ ExpresSo ซึ่งเป็นหน่วยงานนวัตกรรมของ ปตท. ที่สนับสนุนบุคลากรเข้าร่วมดำเนินการเพื่อเตรียมแนวทางในการขยายชุดทดสอบไปยังโรงพยาบาลในภาคีเครือข่ายอย่างเร่งด่วน
“หวังเป็นอย่างยิ่งว่าชุดตรวจโรคดังกล่าวจะเพิ่มความรวดเร็วในการวินิจฉัยเชื้อไวรัสนี้ของหน่วยงานสาธารณสุขและโรงพยาบาลในประเทศไทยได้อย่างทันท่วงที และทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลงในเร็ววัน VISTEC พร้อมมีส่วนร่วมสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนคนไทย ตลอดจนส่งกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ และขอส่งความปรารถนาดีให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นและหายอย่างรวดเร็ว” ดร.ไพรินทร์
ขอบคุณข้อมูลจาก : THE STANDARD