_________________________________________
UV กับการนำมาใช้ฆ่าเชื้อโรค
หลายคนยังสงสัยว่าแสง UV จะสามารถกำจัดเชื้อโรคได้จริงหรือเปล่า? แล้วจะฆ่าเชื้อโรคได้ยังไง? เพราะหลายคนๆยังรู้จักเพียงวิธีฆ่าเชื้อโรคด้วยความร้อนเท่านั้น แต่จริงๆแล้ววิธีฆ่าเชื้อโรคในของใช้ต่างๆ ยังมีอีกหลายวิธี และแสง UV ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่กำจัดเชื้อโรคได้ดีที่สุด ปลอดภัย สะดวกสบายและ ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ
แสงยูวี (UV light) คือพลังงานในรูปคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่แผ่ออกมาจากดวงอาทิตย์ เป็นแสงช่วงที่เรามองไม่เห็น คือ แสงยูวี ประกอบด้วยแสงยูวีเอ (UVA) แสงยูวีบี (UVB) และแสงยูวีซี (UVC) ซึ่งปัจจุบันได้มีนวัตกรรมนำรังสี UV นี้มาใช้เพื่อก่อประโยชน์มากมายหลายทางด้วยกันโดยเฉพาะแสงยูวีซี มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคได้ผลดีที่สุด
แสงยูวี สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ UVA ,UVB และ UVC
แสงยูวีประเภท UVA : มีความยาวคลื่นมาก (320-400 nm) จะรู้จักกันในนาม “Black Light” ถูกใช้ในการทำ Skin Tanning และการรักษาโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับผิวหนัง
แสงยูวีประเภท UVB : มีความยาวคลื่นระดับกลาง (280-320 nm) สามารถส่งผลอันตรายต่อผิวหนังและตาได้ โดยมากจะดูดซับไว้โดยชั้นโอโซนของโลก แต่ก็ยังมีเล็ดลอดส่องมาถึงเราบ้างจึงมีการผลิตครีมกันแดดที่สามารถกันรังสี UVA และ UVB ได้
แสง ยูวีประเภท UVC : มีความยาวคลื่นสั้นที่สุด (200-280 nm) แต่มีพลังงานสูงสุด มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อมากที่สุด รังสี UVC ถูกนำไปใช้ประโยชน์เกี่ยวกับการฆ่าเชื้อโรคในอากาศ พื้นผิวและน้ำ แต่แสงยูวีประเภทนี้มีอันตรายต่อผิวหนังและตามากที่สุดจึงไม่ควรได้รับแสงโดยตรง
รังสียูวีซี (UV-C) แม้จะเป็นแสงที่มีความยาวคลื่นสั้นสุด แต่กลับมีพลังงานสูงสุด ซึ่งมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อมากที่สุด แต่น่าเสียดาย แสงนี้กลับถูกดูดซับในชั้นบรรยากาศเกือบทั้งหมด นักวิทยาศาสตร์จึงได้คิดค้นสังเคราะห์แสง โดยการสร้างหลอดสังเคราะห์รังสียูวีซี ให้ออกมาในรูปแบบหลอดไฟชนิดพิเศษที่สามารถสังเคราะห์รังสียูวีซีเลียนแบบธรรมชาติเพื่อสำหรับฆ่าเชื้อโรค มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Germical Lamp หรือเรียกสั้นๆ ว่า หลอดยูวี ซึ่งจะได้แสงยูวีที่มีความเข้มข้นสูงพิเศษ (Germicidal Range) เพื่อฆ่าและทำลายเชื้อโรค อาทิ แบคทีเรีย, ไวรัส, เชื้อรา และสารก่อภูมิแพ้ หากเชื้อโรคต่าง ๆ ได้รับปริมาณแสงยูวีซีในระยะเวลาที่เพียงพอ แสงยูวีจะทะลุเข้าไปใน DNA ของเชื้อโรค ทำให้ไม่สามารถขยายพันธุ์ได้และหยุดการเติบโตและตายในที่สุด
โดยมากจะมีเพียงแสงยูวีประเภท UVA เท่านั้นที่สามรถส่องผ่านมาถึงผิวโลกได้ ส่วน UVB และ UVC จะถูกโอโซนในชั้นบรรยากาศดูดซับปริมาณส่วนมากไว้ก่อนแล้ว
แล้วนำแสง UV มาใช้ฆ่าเชื้อโรคได้อย่างไร?
UV แสงยูวีที่นำมาใช้ในการฆ่าเชื้อโรคนั้น เกิดมาจากการสังเคราะห์ UVC ขึ้นเอง นั้นก็คือระบบ “UVGI” (Ultraviolet Germicidal Irradiation) หรือ ระบบการใช้แสงยูวีที่มีความเข้มข้นสูงพิเศษ (Germicidal Range) เพื่อฆ่าและทำลายเชื้อโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Virus Bacteria Fungi และ Yeast & Mold ที่อยู่บนพื้นผิวและในอากาศ หากเชื้อโรคต่างๆได้รับปริมาณแสง UVC ในระยะเวลาที่เพียงพอ แสงยูวีจะทะลุเข้าไปใน DNA ของเชื้อโรค ทำให้ DNA เพี้ยนไปจากปรกติ เชื้อโรคไม่สามารถสืบพันธุ์ต่อได้ ก็จะตายในที่สุด ซึ่งวิธีนี้จะเป็นวิธีการทำลายเชื้อโรคชนิดรุนแรง
โดยระบบ UVGI ได้มีการนำมาประยุกต์ใช้มากกว่า 100 ปีแล้ว และนิยมมากในประเทศแถบยุโรป เริ่มจากใช้ฆ่าเชื้อโรคในโรงพยาบาลทุกแห่งก่อน และในปัจจุบันมีการนำมาใช้แพร่หลายมากขึ้น นอกจากโรงพยาบาล คลินิก โรงงานต่างๆ ยังนำมาประยุกต์ใช้ในบ้านเรือน หรือแม้แต่พกพาไปในที่ต่างๆ เพื่อฆ่าเชื้อโรคในที่สาธารณะได้เลยทันที